ดงพญาเย็น หนึ่งในดินแดนป่าอาถรรพ์ ที่ยังมีเรื่องเล่าขานสืบต่อกันมาถึงสิ่งลี้ลับที่ว่า หากใครย่างกรายเข้ามาจะไม่อาจมีชีวิตรอดกลับออกมาได้ ผืนป่าดังกล่าวในปัจจุบันก็คือ “ป่าดงพญาเย็น” ที่ตั้งอยู่บริเวณเทือกเขาพนมดงรัก อยู่ในเขตจังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
ดงพญาไฟ หรือ ดงพญาเย็น
แต่เดิมดงพญาเย็น ถูกเรียกว่า ดงพญาไฟ เป็นชื่อของป่าดงดิบ ที่อุดมไปด้วยสัตว์ป่ามากมาย รวมถึงสิ่งลี้ลับ ทำให้ ดงพญาไฟ กลายเป็นป่าอาถรรพ์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความอันตรายมาอย่างยาวนาน ในอดีตเป็นที่ๆ พรานจอมขมังเวทย์ใช้เป็นที่ประลองวิชาว่าจะเอาชีวิตรอดมาได้อย่างปลอดภัยหรือไม่ แน่นอนว่าสำหรับคนทั่วไปป่าแห่งนี้ยิ่งทวีคูณความอันตราย
ความกว้างใหญ่ของป่าดงพญาไฟกั้นกลางระหว่างภาคกลางกับภาคอีสานของประเทศไทย การจะเดินทางไปมาจึงยากลำบาก หลายชีวิตต้องสังเวยไปด้วยไข้ป่า สัตว์ร้าย จึงได้รับการขนานนามว่าดงพญาไฟ
ก่อนที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดการเดินรถไฟ สายกรุงเทพ นครราชสีมา เมื่อปี พ.ศ. 2443 ขณะที่เสด็จกลับทางรถไฟผ่านดงพญาไฟ ทรงมีพระราชดำรัสให้เปลี่ยนชื่อดงพญาไฟเป็นดงพญาเย็น เพื่อความเป็นสิริมงคล และความร่มเย็นเป็นสุขอาณาประชาราษฎร์ เนื่องจากชื่อดงพญาไฟฟังดูน่ากลัว
ตำนานเมืองขวางทะบุรี
ตำนานเมืองขวางทะบุรี เป็นหนึ่งในตำนานที่เล่าสืบกันมาแต่โบราณเกี่ยวกับเมืองโคราช (จ.นครราชสีมา) เป็นเมืองที่เคยมีความสงบสุข ก่อนจะผู้ปกครองคนถัดมาที่มัวเมาจนบ้านเมืองเสื่อมทราม จนพญาแถน (เทวดาตามความเชื่อคนอีสาน) กริ้วโกรธ จนส่งฝูงงูพิษจากฟ้าลงมาเข่นฆ่าผู้คน จนขวางทะบุรี กลายเป็นเมืองร้าง กองไฟจากการล่มสลายของเมืองขวางทะบุรีเกิดเป็นป่าดงพญาไฟ
โดยในละครดงพญาเย็น ได้มีการดัดแปลง “เมืองขวางทะบุรี” ให้เป็นเมืองลับแลที่เต็มไปด้วยทองคำ ซึ่งซ่อนตัวอยู่ภายใน “ป่าดงพญาเย็น”
การเดินทางครั้งใหม่สู่เมืองขวางทะบุรี แห่งทองคำ จุดหมายปลายทองของการผจญภัยครั้งนี้ กับละครดงพญาเย็น ทุกวันจันทร์ - พฤหัสบดี เวลา 1 ทุ่มตรง ทางช่องวัน 31