เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 30 ก.ค. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หน้าหน่วยรักษาศพ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ลูกสาวและญาติของ นายจารุชาติ มาดทอง ได้เดินทางมาติดต่อขอรับศพ หลังประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชน เป็นเหตุให้เสียชีวิต
ญาตินายจารุชาติ บอกว่า สภาพใบหน้าของนายจารุชาติ ยังคงปกติ แต่มีเลือดออกที่ศีรษะและหู หลังจากที่นำร่างของนายจารุชาติ บรรจุในโลงศพ ได้ว่าจ้างให้รถของหน่วยรักษาศพไปส่ง เพื่อเคลื่อนย้ายไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านหมู่ที่ 15 ต.ม่วงคำ อ.พาน จ.เชียงราย คาดว่าจะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง โดยตลอดการเดินทางนั้น ทางครอบครัวก็ได้นำเหรียญมาโปรยระหว่างทางด้วย
พ.ต.อ.รณชัย รอดลอย ผกก.สภ.ภูพิงค์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่เกิดเหตุพบว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.50 น. นายจารุชาติ ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 เอส สีเทา-ดำ หมายเลขทะเบียน ครข 221 เชียงใหม่ มาตามถนนสายห้วยแก้ว มุ่งหน้าเข้ากลางเมืองเชียงใหม่ เมื่อมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุ ก่อนถึงสามแยกไฟแดงฟ้าธานี ได้มีรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นดรีม สีดำ หมายเลขทะเบียน 7ค 2340 เชียงใหม่ โดยมีชายคนหนึ่งขับอยู่ด้านหน้า ทางนายจารุชาติ ได้ขับขี่รถไปชนเข้าบริเวณท้ายด้านซ้ายของรถคู่กรณีที่อยู่ด้านหน้า ก่อนรถจะเสียหลักแฉลบล้มลงไปด้านขวา แล้วศีรษะไปกระแทกเข้ากับคอนกรีตเกาะกลางถนน จากนั้นทางเจ้าหน้าที่กู้ชีพได้นำตัวผู้บาดเจ็บไปส่งโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมาในเวลาประมาณ 04.50 น.
สำหรับคู่กรณี คือนายสมชาย ตาวินโน อายุ 50 ปี ได้รับบาดเจ็บปานกลาง ทางแพทย์ได้ทำการรักษาและอนุญาตให้กลับบ้านไปในเวลา 15.30 น. โดยผลการตรวจสอบแอลกอฮอล์ในร่างกายของแพทย์ระบุว่า พบแอลกอฮอล์ในร่างกายทั้งคู่ และในวันที่ 31 ก.ค. จะเชิญคู่กรณีของผู้เสียชีวิตให้เดินทางมาพบกับพนักงานสอบสวน สภ.ภูพิงค์ เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม ในขณะเดียวกันก็จะได้ตรวจกล้องตลอดเส้นทางว่ารถทั้งสองคันเดินทางมาอย่างไร เพื่อจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ซึ่งในวันพรุ่งนี้เรื่องราวต่างๆ จะกระจ่างทั้งหมด
ลูกสาวของนายจารุชาติ อายุ 15 ปี เปิดเผยว่า ตนไม่ได้เจอพ่อมาหลายเดือนแล้ว ซึ่งเจอกันล่าสุดคือวันเกิดของตนเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และเป็นครั้งเดียวที่เจอกัน ซึ่งตนเป็นลูกสาวเพียงคนเดียว พ่อทำงานไม่เป็นหลักแหล่ง ทราบว่าพึ่งไปทำงานที่ไต้หวันอยู่ 3 - 4 ปี ก่อนจะกลับมาทำงานที่เชียงใหม่ และมาเสียชีวิต ส่วนที่ว่าพอมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี ตนยอมรับว่าไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นเลย พ่อไม่เคยเล่าให้ฟัง และไม่เคยรู้ว่าพ่อไปเป็นพยานในคดีที่เกิดขึ้น
ขณะที่ญาติของนายจารุชาติ กล่าวเสริมว่า ผู้ตายทำงานไม่เป็นหลักแหล่ง เมื่อก่อนทำงานอยู่กรุงเทพฯ ก่อนจะเดินทางไปทำงานที่ไต้หวัน 3 - 4 ปี ก่อนจะกลับมาทำงานที่เชียงใหม่ มาเป็นพนักงานขับรถ แต่ไม่ทราบว่าทำงานที่ไหน ลักษณะงานเป็นยังไง ส่วนทางด้านคดีทางญาติก็ไม่ทราบ กระทั่งได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุและนายจารุชาติ เสียชีวิต จึงเดินทางมารับศพ
สำหรับนายจารุชาติ มาดทอง คือ 1 ใน 2 พยานสำคัญ ที่ทำให้อัยการสั่งไม่ฟ้องคดี บอส วรยุทธ อยู่วิทยา ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต โดยนายจารุชาติ อ้างว่าเห็นเหตุการณ์ในวันนั้นว่านายบอส ขับรถด้วยความเร็วประมาณ 50-60 กิโลเมตร/ชั่วโมง.